30 วิธีต่างๆ เหล่านี้ผ่านการวิเคราะห์ ทดสอบ ทดลองได้ผลดีมาแล้วทั่วโลก
ข้อมูลเหล่านี้อาจช่วยขยายไอเดียของคุณ ๆ ได้ บางครั้งแม้ว่าลูกคุณอาจยังไม่ได้ดั่งใจ แต่อย่างใดก็ตามเด็กก็คือเด็ก เราต้องเข้าใจธรรมชาติของเขา ก่อนที่จะไปเปลี่ยนแปลงให้เขาเป็นในสิ่งที่เราอยากให้เป็น.. วิธีต่างๆ เหล่านี้ผ่านการวิเคราะห์ ทดสอบ ทดลอง และสรุปผลมาแล้วจากนักวิชาการว่าใช้ได้ผลดีมาแล้วทั่วโลก
1.ตามองตา เมื่อลูกลืมตาตื่นขึ้น ให้เรามองหน้าสบสายตาหนูน้อยสักครู่ หนูน้อยแรกเกิดจดจำใบหน้าของคนได้เป็นสิ่งแรกเสมอ และใบหน้าของพ่อแม่คือใบหน้าแรกที่ลูกอยากจะจดจำ ซึ่งแต่ละครั้งที่หนูน้อยจ้องมองใบหน้าของเรา สมองก็จะบันทึกความทรงจำไว้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย
2.พูดต่อสิลูกเวลาพูดกับลูก เว้นช่องว่างในช่วงคำง่าย ๆ ที่ลูกจะสามารถพูดต่อได้ เช่น พยางค์สุดท้ายของคำ หรือคำสุดท้ายของประโยค ในช่วงแรก ๆ ลูกอาจจะเงียบและทำหน้างง แต่ในที่สุดถ้าทำอย่างนี้บ่อย ๆ ในประโยคซ้ำ ๆ ลูกจะค่อย ๆ จับจังหวะ จับคำพูดบางคำได้ และเริ่มพูดต่อในช่วงว่างที่พ่อแม่หยุดไว้ให้
3.ฉลาดเพราะนมแม่ ให้นมแม่นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผลการศึกษาในเด็กวัยเรียนพบว่า เด็กที่กินนมแม่ตอนที่เป็นทารกมักจะมีไอคิวสูงกว่าเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่ นอกจากนี้การให้นมลูกยังเป็นช่วงเวลาสำคัญในการสร้างสายสัมพันธ์กับลูกน้อย
4. ทำตลกใส่ลูก แม้กระทั่งเด็กน้อยอายุเพียงแค่ 2 วัน ก็มีความสามารถเลียนแบบการแสดงออกทางสีหน้าอย่างง่าย ๆ ของพ่อแม่ได้ ไม่เชื่อลองแลบลิ้นหรือทำหน้าตาตลก ๆ ใส่ ลูกคุณจะทำตามแน่ ๆ
5.กระจกเงาวิเศษ ทารกน้อยเกือบทุกคนชอบส่องกระจก เขาจะสนุกที่ได้เห็นเงาของตัวเองในกระจกโบกมือหรือยิ้มแย้มหัวเราะตอบออกมาทุกครั้ง
6.จั๊กจี้ จั๊กจี้การหัวเราะเป็นจุดเริ่มต้นของพัฒนาการด้านอารมณ์ขัน การเล่นปูไต่ทำให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับการคาดเดาเหตุการณ์ด้วยว่า ถ้าพ่อแม่เล่นอย่างนี้แสดงว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ปูจะไต่จากไหนไปถึงไหนเป็นต้น
7.สองภาพที่แตกต่าง ถือรูปภาพ 2 รูป ที่คล้ายกันให้ลูกมอง โดยวางให้ห่างจากใบหน้าของลูกประมาณ 8-12 นิ้ว เช่น ภาพรูปบ้านที่เหมือนกันทั้งสองรูป แต่อีกรูปหนึ่งมีต้นไม้ต้นใหญ่อยู่ข้างบ้าน แม้ยังเป็นเด็กทารกแต่เขาสามารถสังเกตเห็นความแตกต่างนี้ได้ เป็นการสร้างความจำที่จะเป็นพื้นฐานในการจดจำตัวอักษรและการอ่านสำหรับลูกต่อไป
8.ชมวิวด้วยกันพาลูกออกไปเดินเล่นนอกบ้าน และบรรยายสิ่งที่เห็นให้ลูกฟัง เช่น โอ้โหต้นไม้ต้นนี้มีนกเกาะอยู่เต็มเลย ดูสิลูกบนนั้นมีนกด้วย การบรรยายสิ่งแวดล้อมให้ลูกฟังสร้างโอกาสการเรียนรู้คำศัพท์ให้กับลูก
9.เสียงประหลาด ทำเสียงเป็นสัตว์ประหลาด คุ๊กคู ๆ หรือทำเสียงสูง ๆ เลียนแบบเสียงเวลาที่เด็ก ๆ พูด ทารกน้อยจะพยายามปรับการรับฟังเสียงให้เข้ากับเสียงต่าง ๆ จากพ่อแม่
10.ร้องเพลงแสนหรรษา สร้างเสียงและจังหวะส่วนตัวระหว่างเราและลูกน้อยขึ้นมา เช่น เวลาเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกก็ร้องเพลงเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก อาจจะเป็นกลอนสั้น ๆ แล้วใส่เสียงสูงต่ำแบบการร้องเพลงเข้าไป หรืออีกทางคือเปิดเพลงชนิดต่าง ๆ ให้ลูกฟังบ้าง เช่น บางวันอาจจะเป็นลูกทุ่ง บางวันเป็นเพลงบรรเลง หรือเพลงป๊อปยอดฮิตทั่วไป มีนักวิจัยค้นพบว่าจังหวะดนตรีเกี่ยวพันกับการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของลูก
11.มีค่ามากกว่าแค่อาบน้ำเวลาในการอาบน้ำส่วนให้ลูกรู้จักส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการอาบน้ำ การบรรยายให้ลูกฟังไปด้วยว่ากำลังทำอะไรและจะทำอะไรต่อไปเท่ากับเป็นการสอนคำศัพท์ และช่วยให้ลูกเรียนรู้เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันไปในตัว
12.อุทิศตัวเป็นของเล่น ไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องเล่นราคาแพงไว้ให้ลูกบริหารร่างกาย เพียงแค่คุณพ่อหรือคุณแม่นอนราบลงไปบนพื้น และปล่อยให้หนูพยายามคลานข้ามตัวไป แค่นี้ร่างกายของคุณพ่อคุณแม่ก็จะกลายเป็นสนามเด็กเล่นที่ราคาถูกที่สุด และสนุกที่สุดสำหรับหนูน้อยได้พัฒนากล้ามเนื้อให้ทำงานสัมพันธ์ และเรียนรู้เรื่องการแก้ปัญหาไปพร้อมกัน
13.พาลูกไปช็อปปิ้ง นาน ๆ ครั้งพาลูกน้อยไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตด้วยก็ไม่เสียหาย ใบหน้าผู้คนอันหลากหลาย รวมถึงแสง สี เสียง ในห้างสรรพสินค้า คือ สิ่งบันเทิงใจสำหรับหนูน้อยเชียวล่ะ
14.ให้ลูกมีส่วนร่วม พยายามให้ลูกได้มีส่วนร่วมในกิจวัตรต่าง ๆ เช่น ถ้ากำลังจะปิดไฟก็อาจจะบอกลูกว่า แม่กำลังจะปิดแล้วนะ เสร็จแล้วจึงกดปิดสวิชต์ไฟ นี่จะเป็นการสอนให้ลูกเรียนรู้เกี่ยวกับเหตุและผล ลูกน้อยจะเรียนรู้ว่าเมื่อคุณแม่กดสวิชต์ หลอดไฟจะปิดเป็นต้น
15.สร้างเสียงและสัมผัสแบบแปลกๆ เสียงและสัมผัสจากลมหายใจช่วยให้ลูกน้อยกระปรี้กระเปร่าขึ้นด้วยการเป่าลมเบา ๆ ไปตาม ใบหน้า มือ แขน หรือท้องของลูก หาจังหวะในการเป่าของตัวเอง เช่น เป่าเร็ว ๆ สลับกับช้า หรือเป่าแล้วตามด้วยเสียงต่าง ๆ ตามแต่จินตนาการของคุณพ่อคุณแม่ แล้วรอดูปฏิกริยาตอบสนองจากลูก
16.ทิชชู่หรรษา ถ้าลูกชอบดึงกระดาษทิชชู่ออกจากม้วน ปล่อยเขาค่ะ อย่าห้าม แต่อาจใช้กระดาษทิชชู่ม้วนที่เราใช้ไปพอสมควรแล้ว จนเหลือกระดาษอยู่เพียงเล็กน้อย เพราะการที่เด็กน้อยได้ขยำหรือขยี้กระดาษให้ยับย่น หรือพับให้เรียบนั้นเป็นการฝึกประสาทสัมผัสและการใช้มือของลูกเป็นอย่างดี
17.อ่านหนังสือให้ลูกฟัง การอ่านหนังสือช่วยให้ลูกเรียนรู้เรื่องภาษาได้จริง ๆ มีผลการวิจัยออกมาว่า แม้กระทั่งเด็กอายุ 8 เดือน สามารถเรียนรู้จดจำการเรียงลำดับคำในประโยคที่ผู้ใหญ่อ่านให้ฟังซ้ำ 2-3 ครั้งได้ ดังนั้น ควรจัดเวลาในแต่ละวันอ่านหนังสือให้ลูกฟังเป็นประจำ
18.เล่นซ่อนหาจ๊ะเอ๋ การเล่นจ๊ะเอ๋นี้นอกจากจะทำให้ลูกหัวเราะแล้ว ยังช่วยให้ลูกเรียนรู้ว่าเมื่อสิ่งของหายไปแล้วสามารถกลับคืนมาได้อีก
19.สัมผัสที่แตกต่าง หาสิ่งของที่มีผิวสัมผัสแตกต่างกัน เช่น ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ไม้ หรือผ้าฝ้าย ค่อย ๆ นำพื้นผิวแต่ละอย่างไปสัมผัสแก้ม เท้า หรือท้องลูกเบา ๆ ระหว่างนี้คุณพ่อคุณแม่ก็บรรยายให้ลูกฟังไปด้วยว่าความรู้สึกเมื่อถูกสัมผัสเป็นอย่างไร เช่น นี่จั๊กจี้นะลูก ส่วนอันนี้นุ๊ม นุ่ม ใช่ไหม เป็นต้น
20.ให้ลูกผ่อนคลายและอยู่กับตัวเองบ้าง ให้เวลาประมาณ 5-10 นาที ในแต่ละวัน นั่งเงียบ ๆ สบาย ๆ กับลูกน้อยบนพื้นบ้าน ไม่ต้องเปิดเพลง เปิดไฟ หรือเล่นอะไรกัน ปล่อยให้ลูกได้สำรวจสิ่งต่าง ๆ ตามใจชอบ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องไปยุ่งกับลูกเลยและรอดูว่าใช้เวลาสักเท่าไรหนูน้อยจึงจะคลานมาขอเล่นกับคุณพ่อคุณแม่อีกครั้ง นี่เป็นการฝึกความเป็นตัวของตัวเองให้ลูกขั้นแรก
21.ทำอัลบั้มรูปครอบครัว นำรูปภาพของญาติ ๆ มาใส่ไว้ในอัลบั้มเดียวกัน และนำออกมาให้ลูกดูบ่อย ๆ เพื่อให้จดจำชื่อญาติแต่ละคน แล้วเวลาที่คุณปู่ หรือคุณย่าโทรศัพท์มา ก็นำรูปท่านออกมาให้ลูกดูพร้อมกับที่ให้ลูกฟังเสียงของท่านจากโทรศัพท์ไปด้วย
22.มื้ออาหารแสนสนุก เมื่อถึงเวลาที่ลูกสามารถกินอาหารเสริมที่หลากหลายมากขึ้นได้แล้ว อย่าลืมจัดอาหารของลูกให้มีชนิด ขนาดและพื้นผิวที่หลากหลาย เช่น มีทั้งผลไม้ชิ้นเล็ก เส้นพาสต้า มักกะโรนี หรือซีเรียล ปล่อยให้ลูกน้อยใช้มือจับอาหารถ้าลูกอยากทำ เป็นการฝึกใช้นิ้ว และฝึกใช้ประสาทสัมผัสเมื่อได้สัมผัสกับอาหารที่มีลักษณะแตกต่างกัน
23.ปล่อยให้เด็กได้ทดลองอย่าเพิ่งดุ เช่น ให้เด็กได้ทิ้งของ บางครั้งดูเหมือนเด็กชอบทิ้งของลงพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า พฤติกรรมนี้เกิดจากเด็กทดสอบเรื่องแรงโน้มถ่วงว่าจะตกลงสู่พื้นทุกครั้งหรือไม่
24.เล่นหาของกับกล่องมายากล หากล่องหรือตลับที่เหมือนกันมาสักสามอัน แล้วซ่อนของเล่นชิ้นโปรดของลูกไว้ในกล่องใบหนึ่ง สลับกล่องจนลูกจำไม่ได้ แล้วให้ลูกค้นหาของเล่นชิ้นนั้นจนเจอ นี่เป็นเกมฝึกสมองอย่างง่ายสำหรับเด็ก
25.สร้างอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ กระตุ้นทักษะการทำงานของกล้ามเนื้อให้ลูก โดยนำเบาะ โซฟา หมอน กล่อง หรือของเล่นวางขวางไว้บนพื้น แล้วพ่อแม่ก็แสดงวิธีคลานข้าม ลอด หรือคลานรอบ ๆ สิ่งกีดขวางเหล่านี้ได้อย่างไร
26.เลียนแบบลูกบ้าง เด็กชอบให้พ่อแม่ทำอะไรตามเขาในบางครั้ง เช่น เลียนแบบท่าหาวของลูก แกล้งดูดขวดนมของลูก ทำเสียงเลียนแบบเวลาที่ลูกส่งเสียงอ้อแอ้ หรือคลานในแบบที่ลูกคลาน การทำอย่างนี้กระตุ้นให้ลูกแสดงกิริยาท่าทางต่าง ๆ ออกมา เพราะอยากเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของพ่อแม่ นี่คือก้าวแรกของลูกสู่การมีความคิดสร้างสรรค์
27.เล่นเกมจับใบหน้าที่แปลกไป ลองทำหน้าตาแปลก ๆ เช่น ขมวดคิ้ว แยกเขี้ยว แลบลิ้นให้ลูกดู เวลาลูกเห็นพ่อแม่ทำหน้าตาตลก หนูน้อยจะอยากลองจับ ปล่อยให้ลูกได้ลองจับต้องใบหน้าของพ่อแม่ แล้วสร้างเงื่อนไขบางอย่างขึ้นมา เช่น ถ้าลูกจับจมูกจะทำเสียงแบบนี้ ถ้าจับแก้มจะทำเสียงอีกแบบหนึ่ง ทำแบบนี้ 3-4 รอบ แล้วจึงเปลี่ยนเงื่อนไขไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ลูกแปลกใจ
28.วางแผนคลานตามกัน ลองคลานเล่นไปกับลูกให้ทั่วบ้าน คลานช้าบ้าง เร็วบ้างและหยุดหรือพ่อแม่อาจจะวางของเล่นที่น่าสนใจ หรือจัดบ้านในบางมุมให้แปลกไปก่อนที่จะมาคลานเล่นกับลูกเพื่อไปสำรวจตามจุดต่าง ๆ ที่จัดไว้ตามแผน
29.เส้นทางแห่งความรู้สึกอุ้มลูกน้อยเดินไปทั่วบ้านในวันฝนตก จับมือลูกไปสัมผัสหน้าต่างที่เย็นชื้น หยดน้ำที่เกาะบนใบไม้ ต้นไม้ หรือสิ่งของอื่น ๆ ในบ้านที่จับต้องได้อย่างปลอดภัย เป็นการเปิดประสาทสัมผัสของลูกสู่ความรู้สึกต่าง ๆ เมื่อได้แตะต้องสิ่งของเย็น เปียก หรือความลื่น
30.เล่าเรื่องนิทานเรื่องโปรดของลูกด้วยชื่อลูก แต่แทนที่จะเล่าอย่างที่เคยเล่า ลองใส่ชื่อของลูกลงไปแทนที่ชื่อตัวละครตัวสำคัญของเรื่อง เพื่อให้หนูน้อยรู้สึกแปลกใจและสนุกสนานไปกับชื่อของตัวเองในนิทาน
พลิกบิดและหมุนของคุณผ่านทางเกมเขาวงกตสาระจาก PlaSmart นี้สาระเดิมคือโก่ง, อินเทรนด์ความท้าทาย can't-Put-มันลง! ที่มีมากมายของการบิดหันและอุปสรรคในระหว่างการเริ่มต้นและเสร็จสิ้นก็จะปล่อยให้คุณงงงวย เมื่อคุณลองคุณจะไม่สามารถที่จะนำมันลงมา!
ง่ายต่อการเล่นยากที่จะต้นแบบ
เกมเขาวงกตสาระเดิมเป็นทรงกลมใสเต็มไปด้วยความทุลักทุเลหลากครอบคลุมพื้นที่ที่แตกต่างกันของการตกแต่งภายในของทรงกลม ลูกบอลโลหะขนาดเล็กม้วนรอบด้านและมันเป็นงานของคุณที่จะนำลูกบอลผ่านเขาวงกตที่สิ้นสุด เมื่อลูกจะมีความสมดุลในตำแหน่งเริ่มต้นของมันก็ง่ายที่จะเริ่มต้นมันกลิ้งรอบแทร็ค ตามเวลาที่คุณได้เรียนรู้ทางเดินที่แตกต่างกันคุณจะตระหนักดีว่าถึงแม้ว่ามันจะง่ายที่จะเล่นทุกวิธีที่แตกต่างกันของย้ายไปรอบ ๆ จะยากที่จะโท!
พลิกบิดและหมุนทางของคุณผ่านเขาวงกต
เคลื่อนผ่านทางเดินที่แตกต่างกันคือการออกกำลังกายแปลกประหลาดในการใช้เหตุผลเชิงพื้นที่และช่วยกระตุ้นการใช้เหตุผลทางความคิดของคุณ ขณะที่คุณย้ายลูกบอลไปตามเส้นทางคุณจะพบว่ามันไม่นานก่อนที่จะถึงการติดตามสีที่แตกต่างกันที่คุณจะต้องพลิกบิดและหมุนทรงกลม 90 องศาหรืออีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ลูกบอลกลิ้ง บิดรอบมุมพลิกจากสีเหลืองเป็นสีส้มลาดหมุนรอบเส้นโค้งต่างๆ - ถ้าคุณตกออกติดตามเพียงได้รับกลับมาและลองอีกครั้ง!
การแข่งขันตัวเองเพื่อน ๆ ของคุณและนาฬิกา
หากคุณทำงานหนักพอและทำให้มันถึงจุดสิ้นสุดของเขาวงกตแสดงความยินดีกับตัวเองแล้วทำให้มันกลายเป็นสนามแข่ง! ติดตามครั้งส่วนบุคคลของคุณที่ดีที่สุดและการแข่งขันกับนาฬิกา คุณยังสามารถแข่งกับเวลาของเพื่อนของคุณหรือการแข่งขันเวทีกับเขาวงกตสาระหลาย!
3 แข่งและ 100 ปัญหาและอุปสรรคที่ท้าทายอาจารย์
เกมเขาวงกตสาระรวมถึงเกลียวซุปเปอร์ไต่และแกว่งแขนในรูปแบบ 3 ปริศนาที่แตกต่างกันและ 100 อุปสรรคท้าทายในการค้นพบและเอาชนะ ร่วมกันกับเพื่อนและครอบครัวของคุณในขณะที่คุณพยายามที่จะค้นพบรูปแบบทั้งหมดและอุปสรรค แต่ระวัง - สาระต้นฉบับดังนั้นเสพติดว่าเมื่อคุณปล่อยให้มันไปคุณอาจจะไม่ได้รับมันกลับมาแล้ว!
ที่อยู่ในกล่องอะไร
เขาวงกตสาระและยืน
รายละเอียดสินค้า
พลิกบิดและหมุนของคุณผ่านทางเกมเขาวงกตสาระจาก PlaSmart นี้สาระเดิมคือโก่ง, อินเทรนด์ความท้าทาย can't-Put-มันลง! ที่มีมากมายของการบิดหันและอุปสรรคในระหว่างการเริ่มต้นและเสร็จสิ้นก็จะปล่อยให้คุณงงงวย เมื่อคุณลองคุณจะไม่สามารถที่จะวางมันลง! "ง่ายต่อการเล่นยากที่จะต้นแบบ" เกมเขาวงกตสาระเดิมเป็นทรงกลมใสเต็มไปด้วยความทุลักทุเลหลากครอบคลุมพื้นที่ที่แตกต่างกันของการตกแต่งภายในของทรงกลม ลูกบอลโลหะขนาดเล็กม้วนรอบด้านและมันเป็นงานของคุณที่จะนำลูกบอลผ่านเขาวงกตที่สิ้นสุด เมื่อลูกจะมีความสมดุลในตำแหน่งเริ่มต้นของมันก็ง่ายที่จะเริ่มต้นมันกลิ้งรอบแทร็ค ตามเวลาที่คุณได้เรียนรู้ทางเดินที่แตกต่างกันคุณจะตระหนักดีว่าถึงแม้ว่ามันจะง่ายที่จะเล่นทุกวิธีที่แตกต่างกันของย้ายไปรอบ ๆ จะยากที่จะต้นแบบ! "พลิกบิดและหมุนทางของคุณผ่านเขาวงกต" Moving ผ่าน ทางเดินที่แตกต่างกันคือการออกกำลังกายแปลกประหลาดในการใช้เหตุผลเชิงพื้นที่และช่วยกระตุ้นการใช้เหตุผลทางความคิดของคุณ ขณะที่คุณย้ายลูกบอลไปตามเส้นทางคุณจะพบว่ามันไม่นานก่อนที่จะถึงการติดตามสีที่แตกต่างกันที่คุณจะต้องพลิกบิดและหมุนทรงกลม 90 องศาหรืออีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ลูกบอลกลิ้ง บิดรอบมุมพลิกจากสีเหลืองเป็นสีส้มลาดหมุนรอบเส้นโค้งต่างๆ - ถ้าคุณตกออกติดตามเพียงได้รับกลับมาและลองอีกครั้ง "การแข่งขันตัวเองเพื่อน ๆ ของคุณและนาฬิกา" ถ้าคุณทำงานหนัก เพียงพอและทำให้มันจบจากเขาวงกตแสดงความยินดีกับตัวเองแล้วทำให้มันกลายเป็นสนามแข่ง! ติดตามครั้งส่วนบุคคลของคุณที่ดีที่สุดและการแข่งขันกับนาฬิกา "3 แข่งและ 100 ปัญหาและอุปสรรคที่ท้าทายอาจารย์" เกมเขาวงกตสาระรวมถึงเกลียวซุปเปอร์ไต่และแกว่งแขนในรูปแบบ 3 ปริศนาที่แตกต่างกันและ 100 อุปสรรคที่ท้าทายความสามารถที่จะค้นพบ และเอาชนะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
นิตยสาร at office ฉบับ 55 เดือน August 2008 หน้า 30-34